5 วิธีแก้เมาค้าง แฮงก์แค่ไหนก็เอาอยู่ แนะนำให้ลอง

5 views

1 min read

สายปาร์ตี้วันหยุดทีไรต้องมีงานสังสรรค์บ่อย ๆ จนหลายคนดื่มหนักจนกลับบ้านไม่รอด พร้อมกับตื่นมามีอาการแฮงก์ ปวดหัว เมาค้าง ไม่สดชื่น ไม่มีชีวิตชีวา วันนี้เราเลยมี วิธีแก้เมาค้าง เมาแค่ไหนก็เอาอยู่พร้อมไปทำงานแบบสดชื่นในทันทีมาฝาก บอกเลยว่าสำหรับใครที่เป็นสายดื่มต้องนำไปใช้ เพราะได้ผลชัวร์ จะมี วิธีแก้อาการเมาค้าง พะอืดพะอม อะไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า

แนะนำ 5 วิธีแก้เมาค้าง ต้องลอง

5 วิธีแก้อาการเมาค้าง พะอืดพะอม ที่สายดื่ม สายปาร์ตี้ทั้งหลายต้องลอง เพราะเรามั่นใจว่านำไปใช้แล้วจะไม่ทำให้คุณเมาค้างอย่างแน่นอน กับ วิธีแก้เมาค้าง ที่คุณต้องรู้ดังต่อไปนี้

1.ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ

แอลกอฮอล์เปรียบเหมือนยาขับปัสสาวะที่ทำให้ร่างกายขับของเหลวออกได้เร็วกว่าเครื่องดื่มอื่น ๆ โดยทั่วไป และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากก็นำไปสู่การขาดน้ำอย่างรุนแรงอีกด้วย ทั้งยังทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ดังนั้น วิธีแก้เมาค้างหลังจากตื่นแล้วให้ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ เพื่อเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย และช่วยให้ออกซิเจนไหลเวียนไปยังเลือดและสมองได้ดี ซึ่งการดื่มน้ำเยอะ ๆ ยังช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมากอีกด้วย

2.กินยาไอบูโพรเฟ่น

เป็นอีกหนึ่ง วิธีแก้เมาค้าง โดยการทานยาชนิดนี้จะช่วยลดอาการปวดศีรษะ และอาการบวมได้ด้วย เนื่องจากยาตัวนี้จะมีการออกฤทธิ์ที่แรงกว่าพาราเซตามอล แต่ไม่มีสเตียรอยด์ จึงเห็นผลเร็วและชัดเจนกว่า นอกจากจะช่วยลดอาการปวดศีรษะที่เกิดจากการดื่มแล้ว ก็ยังช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อได้ด้วยที่เกิดขึ้นหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย

3.นอนพักอีกสัก 20-40 นาที

การนอนพักเป็น วิธีแก้เมาค้างที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว หลายคนเมื่อดื่มหนักก็มักจะเกิดอาการนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิท ส่งผลทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอจนเกิดอาการเมาค้าง อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ร่างกายไม่กระปรี้กระเปร่า ดังนั้นถ้าหากปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายลดลงแล้ว ให้คุณนอนหลับพักผ่อนต่ออีกสัก 20-40 นาทีเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น จากนั้นคุณจะรู้สึกสดชื่นมากขึ้น

4.ทานอาหารเช้าที่ดีและมีประโยชน์

การเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนและวิตามินซี หรือการกินอาหารเช้าที่มีประโยชน์หลังจากดื่มหนักมาเป็น วิธีแก้เมาค้างที่จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เพราะน้ำตาลในเลือดต่ำส่งผลทำให้เกิดอาการเมาค้างได้ แนะนำทานอาหารที่มีโปรตีนเยอะ ๆ เพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว วิตามินซีก็จะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นในทันทีนั่นเอง

5.ดื่มเครื่องดื่มแก้แฮงก์

สำหรับเครื่องดื่มแก้แฮงก์ก็เป็น วิธีแก้เมาค้างที่จะช่วยให้คุณหายจากอาการเมาค้างได้อย่างแน่นอน ซึ่งเครื่องดื่มที่จะช่วยให้คุณหายจากอาการเมาค้างก็จะเป็นเครื่องดื่มจำพวก น้ำมะพร้าว เครื่องดื่มเกลือแร่ น้ำผลไม้รสเปรี้ยว นม หรือ กาแฟดำ หลังจากดื่มเครื่องดื่มต่าง ๆ เหล่านี้จากนั้น 30 นาที อาการปวดศีรษะจะเริ่มดีขึ้น และหายจากอาการเมาแฮงก์ทันที

อาการเมาค้าง ป้องกันได้ด้วยวิธีนี้

ก็ได้ทราบกันไปแล้วว่ามี วิธีแก้เมาค้าง อย่างไรบ้าง ซึ่งวิธีต่าง ๆ ก็สามารถช่วยแก้อาการเมาค้างได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากจะมี วิธีแก้เมาค้าง แล้วเราก็ยังมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการเมาค้างมาแนะนำดังนี้

Sponsored

- แนะนำให้คุณเลือกดื่มเพียงอย่างเดียว หลีกเลี่ยงการนำเครื่องดื่มหลายชนิดมาผสมกัน เพราะจะทำให้คุณเมาจากการดื่มได้ง่าย และเมื่อร่างกายได้รับปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากก็จะทำให้เกิดอาการเมาค้างได้นั่นเอง

- ทานอาหารที่มีไขมันก่อนดื่ม ซึ่งการกินอาหารก่อนดื่ม โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันจะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์ได้ช้าลง โดยการกินไขมันดีอย่างเช่น อะโวคาโด ก็สามารถช่วยลดการเกิดอาการเมาค้างได้เช่นกัน

- เราสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาการเมาค้างได้ด้วยการ กินอาหารที่มีไฟเบอร์สูงก่อนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาหารที่มีเส้นใยสูงจะเข้าไปดูดซับแอลกอฮอล์ไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็วนั่นเอง จึงส่งผลทำให้ไม่รู้สึกเมาได้ง่าย และไม่เกิดอาการเมาค้างอีกด้วย

- ระหว่างที่คุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นแนะนำให้ดื่มน้ำสลับแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ง่าย การดื่มน้ำสลับระหว่างดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกายได้ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นวิธีรับมืออาการเมาค้างได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นสายดื่ม ชอบดื่มแอลกอฮอล์อยู่บ่อย ๆ และมักจะมีอาการเมาค้างบ่อย ๆ ด้วยเช่นกัน แนะนำให้คุณนำวิธีต่าง ๆ ที่เรานำมาแนะนำไปใช้ได้เลย รับรองเลยว่าคุณจะต้องไม่เกิดอาการแฮงก์หรือ อาการเมาค้างอย่างแน่นอน แต่กลับทำให้คุณสามารถตื่นไปทำงานได้อย่างปกติแบบไม่น่าเชื่อกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามการไม่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะฉะนั้นหากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงดีกว่า เพื่อการมีสุขภาพที่ดีในระยะยาวนั่นเอง

ติดตาม Papa Expert ได้ที่
Website - papaexpert.com
Blockdit - blockdit.com/papaexpert
Facebook - facebook.com/daipa.papa
Instagram - instagram.com/daipa_papa/