หัดเทรดหุ้น ต้องรู้! เทคนิคลงทุนแบบ canslim คืออะไร?

ใครเป็นนักเล่นหุ้นมือใหม่ฟังทางนี้!! โดยเฉพาะใครที่มีความต้องการหัดเทรดหุ้นลองทำกำไรด้วยตัวเอง อยากให้ทำความรู้จักกับเทคนิคการลงทุนแบบ canslim ที่แม้จะเป็นมือใหม่ก็สามารถเล่นได้ไม่ยุ่งยาก ทว่าเทคนิคลงทุนแบบ canslim คืออะไร? อยากให้ทุก ๆ คนไปร่วมทำความเข้าใจกันก่อน เพราะหากเข้าใจการลงทุนก็จะผ่านไปด้วยดีอย่างแน่นอน

หัดเทรดหุ้นด้วยเทคนิคลงทุนแบบ canslim คืออะไร?

ต้องอธิบายให้เข้าใจกันก่อนหัดเทรดหุ้นเลยว่า canslim เป็นหลักการเลือกหุ้นที่ได้ถูกคิดค้นขึ้นจาก William J.O’Neil ที่มาจากหนังสือชื่อดัง อย่าง How to Make Money in Stocks โดยหลักการของการลงทุนแบบ canslim จะมีการเลือกหุ้นด้วยปัจจัยพิเศษ 7 อย่างที่ต้องพิจารณา ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเทรดที่นักเทรดหุ้นมือใหม่ต้องรู้ ได้แก่ Annual earnings, Current earnings, Institutional Sponsorship, Leader or laggard,  Market direction, New Product, Supply and Demand

1. Annual earnings คือกำไรที่มากกว่า 25% ต่อปี โดยเป็นแบบใน 5 ปีที่ผ่านมา

2. Current earnings ก็คือการบอกถึงอัตราการเจริญเติบโตของผลกำไรที่มีมากกว่า 25%

3.  Institutional Sponsorship จะเป็นการเลือกหุ้นที่อยู่กับนักลงทุนทุกสถาบันการลงทุนที่มี

4. Leader or laggard คือการเลือกหุ้นที่จัดอยู่ในกลุ่มผู้นำ

5. Market direction โดยที่จะดูทิศทางของตลาดที่มี

6. New Product เป็นบริษัทที่มีเรื่องความแตกต่างและความใหม่อยู่เสมอ

7. Supply and Demand เป็นตัวบ่งบอกถึงปริมาณการซื้อขายที่มีให้สูง

ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นนักลงทุนไม่ว่าจะหัดเทรดหุ้น หรือมีประสบการณ์มาชำนาญแล้วก็ตาม ต้องบอกว่าแนวคิด Canslim ของ William J.O’Neil ได้สร้างขึ้นมาจากตลาดหุ้นของอเมริกาฯ ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างแตกต่างจากตลาดหุ้นในประเทศไทยเรา การจะใช้จึงต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพตลาดที่เป็นอยู่ด้วย

คำแนะนำการลงทุนหุ้นของ William J.O’Neil

แม้ว่าเราจะเลือกใช้ เลือกหัดเทรดหุ้นเทคนิค canslim ก็อยากให้เราได้ศึกษาคำแนะนำต่าง ๆ ของ William J.O’Neil ที่พยายามจะแนะนำนักลงทุนแล้วเกี่ยวกับความผิดพลาด 5 อย่างของการเลือกลงทุน

• เลือกที่จะถือครองหุ้นที่มีมาอยู่นานเกินไป อย่าง มีหุ้นมากกว่า 15 – 20 ปี เพราะจะทำให้เราละเลย ขาดวินัยการเข้าไปตรวจดูระดับกราฟหุ้นพลาดโอกาสทำกำไรก้อนโต
• ได้รับผลกระทบจากข่าวที่มีในระยะสั้นมาก ทำให้ตกใจกลัวว่าจะขาดทุนจึงขายทิ้ง คิดว่าตัวเองจะเก่งทำนายได้เองตลอด ทั้งที่จริงควรรอเวลาอีกนิด
• ชอบซื้อ หรือเทรดหุ้นที่มียอดขายสูง ๆ โดยที่สถิติจะไปท้ายตาราง ทำให้เกิดผลตอบแทนขึ้นมาใน 1 – 2 ปีต่อมา
• ไม่มีความอดทนอีกต่อไป และเสียความมั่นใจ เมื่อไม่มั่นใจ ไม่รอก็ทำให้รีบขายมากไป เกิดเป็นความเสียดายมากกว่า เพราะบางครั้งก็อาจมียอดสูงในระยะยาว
• ช่องเปลี่ยนกองทุนบ่อย เพราะมีความมั่นใจในตัวเอง ทำให้การซื้อขายแพงแล้วส่วนมากหุ้นที่ซื้อก็จะอยู่ในตลาดที่มีราคาแพง พอเปลี่ยนก็เลยต้องขายแบบถูก ๆ

โดยใครที่กำลังหัดเทรดหุ้นด้วยเทคนิค canslim ต้องบอกว่าจะเน้นไปที่การดูกราฟเป็นหลัก แล้วใช้ปัจจัยที่บอกไปทั้ง 7 ในการดู ซึ่งถือว่าเป็นการเทรดที่มีหลักการมาก ๆ ซึ่งทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของหุ้นได้อย่างดี โดยที่จะมีทัศนคติที่เป็นแบบการพยายามด้วยตนเอง โดยมักให้เราได้เข้าถึงการลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้รีบร้อน เพราะความสำเร็จราคาตลาดไม่ได้เกิดขึ้นในคืนเดียว มีนักลงทุนที่ทั้งหัดเทรดหุ้นหรือเทรดมานานแล้วมักใช้กัน

แต่กระนั้นก็มีหลาย ๆ คนที่ไม่ได้เชื่อทั้งหมดและเกิดปัญหาทำให้ต้องเจ็บปวดเพราะมีการขาดทุนเกิดขึ้น ถ้าให้ยกตัวอย่างของการลงทุน เมื่อมีการคิดหุ้นขึ้นมาก็จะมีการปล่อยให้ทำกำไรด้วยตัวเองไปก่อน 25% จากนั้นก็จะขายทิ้งทันที ซึ่งขณะเดียวกันนั้นก็จะมีระบบที่ตัดทุนแบบอัตโนมัติ 7 – 8% ถ้าเราใช้วิธีนี้ตามที่นักคิดหุ้น canslim อย่าง William J.O’Neil ทำ ยกตัวอย่างว่าเราได้ซื้อหุ้นมา 100 บาท แล้วหุ้นตกเหลือ 92 – 93 บาท เราก็จำเป็นต้องขายทิ้งไป แต่ก็เป็นเรื่องยากของนักลงทุนหลาย ๆ คนเพราะมักไม่อยากขายอันเป็นผลมาจากอารมณ์ครอบงำโดยเฉพาะนักเทรดหุ้นมือใหม่

นอกจากนี้ William J.O’Neil ก็ยังมีการบอกถึงนักลงทุนที่ได้ซื้อหุ้นมาผิดพลาด มีการขายขาดทุนไปเรื่อย ๆ เพราะใช้อารมณ์มาครอบงำ โดยเฉพาะใครหัดเทรดหุ้นก็มีโอกาสที่จะขาดทุนไปไม่รู้จบ เพราะซื้อแบบผิดพลาด โดยหวังว่าราคาจะมีกลับมาเท่าทุนที่ซื้อ หรือหวังว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นแล้วค่อยขายทิ้ง ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยสุดท้ายจะกลายเป็นขาดทุนมากกว่า เนื่องจากหลาย ๆ ครั้งที่ซื้อแล้วหุ้นดันตกลงมาแบบขาดทุนเรื่อย ๆ และราคาไม่กลับเท่าเดิมแล้ว

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคการหัดเทรดหุ้นที่มีชื่อว่า canslim จาก William J.O’Neil ซึ่งจะเห็นได้เลยว่าค่อนข้างน่าสนใจแบบสุด ๆ เพราะจะลงทุนแบบเป็นขั้นตอน ไม่ใช้อารมณ์มาเกี่ยวข้องบนพื้นฐานปัจจัยทั้ง 7 ที่เราแนะนำไป เพราะเชื่อว่าเวลาขาดทุนสามารถขาดได้นิดหน่อยไม่เป็นไร แต่เมื่อทำกำไรก็ต้องทำให้ได้มาอย่างมหาศาลก้อนโต และถ้าเราได้หัดเทรดหุ้นนี้จนชำนาญเชื่อว่าหุ้นตัวอื่น ๆ ไม่มีพลาด หรือถ้าพลาดก็น้อยมาก ๆ

ติดตาม Papa Expert ได้ที่
Website - papaexpert.com
Blockdit - blockdit.com/papaexpert
Facebook - facebook.com/daipa.papa
Instagram - instagram.com/daipa_papa/