มะเร็งต่อมลูกหมาก ภัยร้ายของผู้ชายใกล้ตัวกว่าที่คิด ต้องระวัง

มะเร็งต่อมลูกหมากถือเป็นโรคในผู้ชายที่อันตรายและต้องระวัง บางคนอาจไม่รู้ตัวมาก่อนเจออีกทีก็เป็นระยะที่ 3 – 4 ยากจะแก้ไขได้ ดังนั้นการได้ศึกษาทำความเข้าใจเอาไว้ก็ช่วยให้รับมือได้ง่าย และลดความเสี่ยงที่จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งวันนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ มาให้ศึกษา ใครใคร่อยากรู้แล้วก็ไปติดตามพร้อมกันได้เลย

มะเร็งที่ต่อมลูกหมากคืออะไร มีอาการอย่างไร?

มะเร็งต่อมลูกหมาก หรือ Prostate Cancer เป็นอีกมะเร็งที่พบได้มากในเพศชายที่จะเติบโตขึ้นช้า ๆ อยู่ตรงจุดที่เรียกว่าต่อมลูกหมาก ที่เป็นอีกอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชาย โดยที่จะคล้ายเม็ดเกาลัดเล็ก ๆ ที่คอยผลิตน้ำที่ไว้ใช้หล่อเลี้ยง และลำเลียงตัวอสุจิ โดยลักษณะของมะเร็งต่อมลูกหมาก อาการนั้นในช่วงแรก ๆ ก็ต้องยอมรับว่าจะไม่มีอาการใดแสดงออกมาจนกว่าจะมีเนื้องอกที่ทำให้ต่อมลูกหมากโตขึ้น หรือเมื่อกลายเป็นมะเร็งที่ลุกลามไปแล้วเกินกว่าที่จะอยู่ในส่วนของต่อมลูกหมาก เซลล์มะเร็งที่เติบโตก็เกิดแรงไปกดทับที่ท่อปัสสาวะ และกลายเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหากับการขับถ่ายปัสสาวะ ไม่ว่าจะเป็น

• ปัสสาวะออกยาก
• ปวดปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะเป็นในช่วงเวลากลางคืน
• ปัสสาวะติดขัด แผ่วเบา
• รู้สึกว่าปัสสาวะแล้วไม่สุด

นอกจากนี้ มะเร็งต่อมลูกหมาก อาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเป็นระยะที่มากแล้วร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น อาการน้ำหนักลดแบบที่ไม่ทราบสาเหตุมาก่อน ร่างกายส่วนล่างบวม คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนล้า มีอาการอ่อนแรง ขาอ่อนล้าขยับไม่ได้ อาจจะมีท้องผูกร่วมด้วย เจ็บที่หลังส่วนล่าง หรือเชิงกราน

สาเหตุของการเกิดโรค

เรื่องสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากจริง ๆ แล้วแพทย์ก็ยังระบุสาเหตุไม่ได้อย่างแน่ชัด เพียงรู้ว่ามันเกิดขึ้นมาจากเซลล์ที่มีในต่อมลูกหมากผิดปกติ และมีการกลายพันธุ์ของ DNA จนเกิดเซลล์เติบโตที่ปิดปกติ โดยที่จะมีชีวิตต่อไปได้อีกและก่อให้เกิดเนื้องอกลุกลามบานปลายไปที่เนื้อเยื่อรอบข้าง รวมถึงมีโอกาสที่จะแพร่กระจายไปส่วนอื่นด้วย ทั้งนี้ โรคมะเร็งที่ว่าก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เกิดขึ้นด้วยที่ทำให้เสี่ยงกับการเกิด เช่น

• บุคคลที่คนในครอบครัวเคยเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก พ่อ หรือพี่ชายที่อายุต่ำกว่า 60 แล้วเป็นโรคนี้ หรือมีญาติที่เป็นมะเร็งเต้านม อาจจะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งที่ว่านี้สูงด้วยเช่นกัน
• ผู้สูงอายุที่ยิ่งมีอายุมากก็เสี่ยงมาก โดยจากการวินิจฉัยโรคส่วนใหญ่พบว่าจะมีในเพศชายที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
• ผู้ป่วยโรคอ้วน ที่มีงานวิจัยออกมาม่านว่ามีมะเร็งที่ต่อมลูกหมากเชื่อมโยงจากโรคอ้วนด้วย ทั้งโรคอ้วนยังไปเพิ่มความรุนแรงของมะเร็งที่ส่งผลต่อการรักษาที่ยากขึ้นไปอีก

การวินิจฉัยโรคที่มีหลากหลาย

สำหรับเรื่องการวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากนี้นั้น คุณจะต้องพูดคุย ปรึกษาแพทย์ก่อนเลยว่าจะใช้วิธีไหนโดยมีให้เลือกหลากหลายเอาที่เหมาะสมและสบายใจเรามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น

• การเจาะเลือด : ซึ่งจะเป็นการหาสารบ่งชี้มะเร็งในต่อมลูกหมาก หรือ PSA (Prostate-specific Antigen) เป็นการเก็บเอาตัวอย่างเลือดเพื่อนำมาวิเคราะห์หาสารที่เรียกว่า PSA นี้ที่มีในกระแสเลือด โดยที่ระดับค่าของสารสูงกว่าปกติก็ทำให้บ่งชี้ได้ว่าติดเชื้อ อักเสบ หรือต่อมลูกหมากขยายใหญ่ รวมถึงการเกิดมะเร็งด้วย
• การตรวจวิเคราะห์เบื้องต้น : หรือ Screening Test ที่จะเป็นการตรวจแนะนำเมื่อมีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรืออาจจะเร็วกว่านั้นในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งชนิดนี้ โดยที่จะทำการตรวจทางทวารหนัก และมีการเจาะเลือดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุบ่งชี้อย่างที่กล่าวไปในข้อแรก
• การตรวจหาทางทวารหนัก : หรือ DRE (Digital Rectal Exam) โดยที่ต่อมลูกหมากจะติดที่ทวารหนัก แล้วแพทย์ก็จะต้องสวมถุงมือก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปทางทวารหนักของคนไข้เพื่อดูพื้นผิว รูปร่าง หรือขนาดของต่อมลูกหมากว่าเกิดความผิดปกติใด ๆ หรือไม่

อย่างไรก็ดี หากแพทย์ได้ทำการตรวจรูปแบบการเจาะเลือด หรือ PSA และตรวจหาทางทวารหนัก DRE แล้วเกิดความผิดปกติ ก็จะแนะนำให้มีการวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มเติม ด้วยวิธีการอื่น ๆ อย่าง

• การตรวจรูปแบบอัลตราซาวด์ : ที่จะซาวด์ผ่านช่องทวารหนักด้วยเครื่องมือและใช้ชิ้นตรวจเล็ก ๆ แหย่เข้าไปแล้วใช้คลื่นเสียงที่จะถ่ายภาพของต่อมลูกหมาก โดยที่สามารถตัดชิ้นเนื้อเอามาตรวจได้ด้วย
• การตัดชื้นเนื้อต่อมลูกหมาก : ที่จะเก็บเอาต่อมลูกหมากมาด้วยอุปกรณ์เช็ดที่บางและสอดเข้าไปที่ทวารหนัก โดยที่มีอุปกรณ์อัลตราซาวด์สอดเข็มนี้ผ่านเข้าไป ตัดชิ้นเนื้อมาส่งวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการต่อไป หากพบว่าเป็นเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากก็จะดูระยะของมะเร็ง การแพร่กระจาย เพื่อให้รักษาได้เหมาะสมต่อไป

สำหรับการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากนี้นั้นมีด้วยกันหลากหลายวิธี ทั้งการผ่าตัดต่อมลูกหมาก การฉายรังสีบำบัด การใช้ฮอร์โมนบำบัด การทำเคมีบำบัด การรักษาด้วยความเย็น โดยที่แต่ละรูปแบบก็จะมีขั้นตอน ผลข้างเคียงที่แตกต่างกันออกไป ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแพทย์ที่สั่งการ ใครที่คิดว่าเข้าข่ายก็อยากให้ลองไปตรวจวินิจฉัยกันให้ไวที่สุด เพื่อยับยั้งความรุนแรงที่หากปล่อยไว้ไม่รักษาอาจถึงชีวิตได้

ติดตาม Papa Expert ได้ที่
Website - papaexpert.com
Blockdit - blockdit.com/papaexpert
Facebook - facebook.com/daipa.papa
Instagram - instagram.com/daipa_papa/

บทความน่ารู้อื่นๆ คลิกไปอ่านกันเลย

1.7 นาฬิกาออกกำลังกาย ที่หนุ่มๆ รักสุขภาพต้องมีไว้

2.7 เวย์เพิ่มน้ำหนัก สำหรับคนน้ำหนักน้อย พร้อมเสริมกล้ามเนื้อมากขึ้น