"การทำหมันชาย" เรื่องที่หนุ่ม ๆ หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

1 views

1 min read

เมื่อพูดถึงเรื่องการทำหมันแล้วนั้นจริง ๆ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่จะต้องทำกันเท่านั้น แต่ผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็สามารถทำหมันได้เช่นกัน แต่กระนั้นเรื่องการทำหมันชายเชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็เป็นได้ เราไม่รอช้าที่จะอาสาพาไปทำความรู้จักอย่างหมดเปลือก เพื่อให้เข้าใจและพร้อมทำหมันแทนผู้หญิงได้อย่างมั่นใจไร้กังวล

การทำหมันชายคืออะไร มีด้วยกันกี่วิธี?

การทำหมันชาย (Vasectomy หรืออีกชื่อ Male sterilization) นี้นั้นคือการคุมกำเนิดโดยถาวรที่มีการตัดและผูกท่อทางเดินอสุจิไป เป็นการปิดกั้นไม่ให้เชื้ออสุจิได้เข้ามาในช่องคลอดขณะที่กำลังทำการร่วมเพศ แต่ทั้งนี้ ลูกอัณฑะของคุณก็ยังคงผลิตเชื้ออสุจิได้ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายยังคงมีอยู่เช่นเดิม เพียงแค่ตัวอสุจิไม่สามารถเดินทางมาเข้าสู่ผู้หญิงได้เท่านั้น และจะสลายตัวไปเองตามธรรมชาติที่ร่างกายจัดการออกไปเอง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ส่วนน้ำอสุจิหรือน้ำกามก็ยังคงมีอยู่ตามเดิม ซึ่งทำหมันชายไม่ได้เป็นการตัดตอน หรือตัดเอาลูกอัณฑะออกไป ที่ว่าจะไม่ทำงาน หรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปเลย อย่างที่บางคนอาจจะเข้าใจผิดได้ และในส่วนการวิธีการทำก็ทำได้ 2 วิธีเลย คือ

  • การใช้เครื่องมือเจาะที่ผิวหนังเพื่อหาท่อทางเดินอสุจิ แล้วทำการผูกก่อนจะตัดท่อทางเดินของเชื้อทิ้งไป แผลมีขนาดเล็กมาก ไม่จำเป็นต้องเย็บแผลปิดใด ๆ
  • การใช้มีดกรีดเปิดที่ผิวหนังของลูกอัณฑะ ที่อยู่เหนือท่อทางเดินเชื้ออสุจิ 1 – 2 แผล แล้วก็ผูก ก่อนที่จะตัดช่องทางเดินของเชื้ออสุจิทั้ง 2 ข้างไป แล้วจึงเย็บปิดผิวหนังที่กรีดออก

แล้วการทำหมันในเพศชายนี้มีประสิทธิภาพอย่างไร?

ในส่วนของการทำหมันชายถือเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ดีที่สุดแล้วในปัจจุบัน เพราะมีความปลอดภัย และมีผลข้างเคียงที่น้อยมาก ประสิทธิภาพในการควบคุมก็มีสูงมาก แม้จะไม่ได้ 100% แต่เมื่อเทียบกับการทำหมันอื่น ๆ แล้วถือว่าสูงที่สุด ซึ่งตามหลักแล้วหากได้รับการทำหมันที่ถูกต้องเหมาะสม ก็มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาการตั้งครรภ์น้อย หรือได้เพียง 0.1% เท่านั้น หมายความว่าในการตั้งครรภ์ต่อปีของผู้หญิง 1,000 คน โอกาสที่จะพลาดตั้งครรภ์มีเพียง 1 คนเท่านั้น กระนั้นหากมีความผิดพลาดในการผ่าตัดแล้วก็จะมีโอกาสที่จะทำผู้หญิงตั้งครรภ์ได้ 0.15% หรือผู้หญิง 666 คน โอกาสตั้งครรภ์ 1 คน เป็นต้น ในขณะที่การทำหมันผู้หญิงทั่วไปโอกาสที่จะพลาดตั้งครรภ์ได้นั้นมีมากกว่าการทำหมันชายถึง 5 เท่าตัว คือ 0.5% ผู้หญิง 200 คน ท้องได้ 1 คน ดังนั้น การได้พิจารณามองหาสถานพยาบาลในการทำหมันที่ดีมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด ส่วนใครที่ทำหมันไปแล้วเกิดอยากมีลูกโอกาสที่จะทำให้กลับมามีลูกได้นั้นก็ทำได้ แต่ก็จะทำได้ยาก มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และต้องได้แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ก่อนที่จะตัดสินใจทำจึงควรต้องพิจารณาให้ดีด้วยเช่นกัน

การดูแลตัวเองในผู้ชายหลังทำหมันแล้วเป็นอย่างไร?

หลังจากที่ผู้ชายได้ทำหมันชายแล้วผู้รับการทำหมันสามารถกลับบ้านไปทำงานได้เลยตามปกติ แต่หากมีปัญหา หรือมีอาการแทรกซ้อน มีผลข้างเคียง ให้ปฏิบัติตามสิ่งที่จะเกิดขึ้นดังต่อไปนี้ได้เลย

  • ไม่ควรให้แผลที่เพิ่งผ่าตัดถูกน้ำอย่างน้อย 3 วัน
  • ในวันแรกที่ทำการผ่าตัดทำหมันมานี้ให้เอาน้ำแข็งประคบที่แผลผ่าตัดบริเวณอัณฑะได้เลย เพื่อลดอาการบวม พร้อมบรรเทาความเจ็บปวด และไม่ทำให้เกิดห้อเลือดหรือลิ่มเลือดได้
  • หลังการทำหมันควรสวมกางเกงในที่รัดเอาไว้เลย
  • ไม่ควรยกของหนัก ออกกำลังกายอย่างหนักคร่อมที่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ หรือนั่งรถที่กระเทือนใน 1 – 3 วันแรกเพื่อป้องกันไม่ให้แผลมีเลือดออก
  • งดการมีเพศสัมพันธ์หลังการทำหมันชาย 1 สัปดาห์ เพราะหากมีเพศสัมพันธ์หลังทำหมันทันที จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่เชื้ออสุจิจะไปที่ทางเดินท่อ ทำให้ที่ตัดและผูกแยกจากกัน ทำให้การคุมกำเนิดล้มเหลว หรือพลาดได้
  • ในระหว่างการมีเพศสัมผัสช่วง 2 – 3 เดือนควรมีการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การกินยาคุมของผู้หญิง ฯลฯ จนไม่พบเชื้ออสุจิที่มีในน้ำกามหลั่งออกมาแล้ว เพราะอาจมีเชื้อค้างท่อ หรืออยู่ในถุงอสุจิได้
  • หาเกิดความผิดปกติมีอาการปวดบวมที่อัณฑะ หรืออัณฑะมีขนาดใหญ่มากขึ้น มีน้ำ มีเลือด หรือหนองซึมออกมาจากแผลให้รีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยรักษาก่อนเวลานัดได้เลยอย่าทิ้งไว้
  • ควรมีการเข้ารับการตรวจน้ำกามที่หลั่งออกมาหลังการทำหมันชายไปแล้ว 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อดูว่าไม่มีการพบเชื้ออสุจิแล้ว เป็นการทำหมันโดยสมบูรณ์ และควรตรวจอีกติดต่อกันอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจมากขึ้น

จะเห็นเลยว่าการทำหมันชายนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายและทำได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยสูง แถมบางครั้งหน่วยงานของรัฐหลายแห่งก็ทำให้แบบฟรี ๆ ด้วย หรือหากเป็นสถานพยาบาลเอกชน คลินิก ก็มีราคาไม่แพงเลย ซึ่งหากจะแนะนำแล้วการที่ให้ผู้ชายเป็นฝ่ายทำหมันบ้างก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะผู้หญิงต้องผ่านการเจ็บปวดมาหลายต่อหลายครั้ง แต่กระนั้นสุดท้ายแล้วก็อยู่ที่คู่รักจะตกลงกันว่าใครที่เหมาะสมในการทำหมันมากกว่ากัน หวังว่าการทำหมันที่สนใจจะผ่านไปได้ราบรื่นมากขึ้น

ติดตาม Papa Expert ได้ที่
Website - papaexpert.com
Blockdit - blockdit.com/papaexpert
Facebook - facebook.com/daipa.papa
Instagram - instagram.com/daipa_papa/

Sponsored

บทความน่ารู้อื่นๆ คลิกไปอ่านกันเลย

1.สาเหตุและวิธีแก้ปัญหาเมื่อ กระจกไฟฟ้ารถยนต์ไม่ทำงาน

2.เลือกสีไหนดี สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด 2565 ใครจะออกรถใหม่อย่าพลาด