อาการ คันขาหนีบหรือการคันหว่างขาอาการที่เกิดขึ้นกับผู้ชาย ถือเป็นปัญหากวนใจมาก ๆ เพราะทำให้รู้สึกรำคาญ และเมื่อมีการเกาบ่อย ๆ ผลที่ตามมาก็คือ มักจะเกิดอาการเจ็บ คัน และแสบบริเวณนั้น ๆ ซึ่งอาการคันต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณขาหนีบ มักจะมีหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นจากการแพ้น้ำยาซักผ้า การติดเชื้อต่าง ๆ หรืออาจจะเกิดจาการเสียดสีระหว่างการเดินไปมาก็ได้ และอีกหนึ่งสาเหตุที่เรามักจะได้พบกับได้บ่อยนั่นก็คือ โรคเริม สำหรับวันนี้เราเลยมีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับอาการ คันขาหนีบ มาฝาก จะน่าสนใจและเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยดีกว่า
สาเหตุอะไรบ้างที่มักจะทำให้ผู้ชายหลายคนเกิดอาการ คันขาหนีบ จนนำไปสู่การเกิด โรคเริม สำหรับใครที่มีอาการ คันขาหนีบ บ่อย ๆ และไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรนั้น มาดูสาเหตุที่เกิดขึ้นกันว่ามีอะไรบ้าง โดยสาเหตุที่เรามักจะพบได้บ่อย ๆ มีดังต่อไปนี้
สำหรับผู้ชายคนไหนที่มีการออกกำลังกายประเภทที่เกิดแรงเสียดสีบริเวณขาหนีบบ่อย ๆ เช่น การวิ่ง ก็อาจทำให้เกิดผื่นแดงบริเวณโคนขาหรือขาหนีบได้ด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่การมีน้ำหนักเกินและต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ ก็ทำให้เกิดอาการ คันขาหนีบ ได้ง่าย หากไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจทำให้เกิดอาการคันในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว ฉะนั้นเมื่อเริ่มมีอาการแนะนำให้คุณ รักษาด้วยการทาครีมประเภทมอยส์เจอไรเซอร์ หรือทาครีมที่มีส่วนประกอบของแร่ธาตุสังกะสี เพื่อช่วยป้องกันการเสียดสีของผิวหนังระหว่างการเคลื่อนไหวร่างกายนั่นเอง
โรคเริม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นผื่นแดง มีตุ่มพุพองสามารถลามไปที่บริเวณผิวหนังส่วนอื่น ๆ ได้ และเมื่อมีการรักษาหายแล้วก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นกัน อาการเมื่อเริ่มต้นมักจะมีอาการ คันขาหนีบ ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้โดยการปรึกษาแพทย์และเข้ารับการรักษาเฉาะทางอย่างตรงจุด
โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคทาง ผิวหนัง จะมีลักษณะที่แห้งหนา เป็นผื่นนูนมีเกล็ดสีขาวเป็นจุด พบได้ที่บริเวณหว่างขา จึงทำให้เกิดอาการ คันขาหนีบ และผิวหนังบริเวณใกล้เคียง หากผู้ชายคนไหนที่เกิดอาการลักษณะนี้ให้คุณ รักษาความสะอาด และทาด้วยยารักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยลดอาการและหายได้
อาการ คันขาหนีบหลายคนมักเกิดจากเชื้อรา หรือแบคทีเรีย จะพบลักษณะเป็นผื่นเงา เปียกชื้นบริเวณจุดที่คัน และมีจุดสีขาวร่วมด้วย โดยสาเหตุของการเกิดเชื้อรา และแบคทีเรีย บริเวณขาหนีบมักมาจากการปล่อยให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการอับชื้นเป็นเวลานาน มีการสะสมเหงื่อหรือน้ำ และหากใครที่สวมใส่กางเกงชั้นในที่คับ หรือรัดจนเกินไป ก็มักจะทำให้เกิดเชื้อรา และแบคทีเรียได้ง่ายด้วยเช่นกัน จึงแนะนำให้สวมใส่กางเกงชั้นในที่หลวมกว่าเดิม และทำความสะอาดบ่อย ๆ ก็จะช่วยลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียได้อย่างแน่นอน
อาการแพ้จนเกิดการ คันขาหนีบ ก็มักจะเกิดขึ้นเมื่อผิวบริเวณนี้เช่นกัน ซึ่งอาการแพ้จะมีลักษณะผื่นแดงบวม มีอาการคันและอาจมีน้ำเหลืองซึมร่วมด้วย หลายคนมักเกิดอาการแพ้จากการแพ้น้ำยาซักผ้า หรือผ้าเบาะรองนั่ง อาการเริ่มต้นมักเกิดจากหลังสัมผัสภายในไม่กี่ชั่วโมง นอกจากนี้อาการแพ้ก็ยังสามารถเกิดขึ้นกับผิวหนังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามอาการแพ้ต่าง ๆ จนทำให้เกิดอาการ คันขาหนีบ นั้นอาจจะต้องดูอีกทีว่าเกิดจากการแพ้อะไรกันแน่นอน เพราะหลายคนมีสาเหตุการแพ้ที่แตกต่างกันออกไป
เชื้อราที่ขาหนีบหากเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถหายไปเองได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และเชื้อราอาจกระจายไปยังผิวหนังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายอีกด้วย เช่น มือ เล็บ เท้า อวัยวะเพศ ดังนั้นเมื่อมีอาการคันที่บริเวณขาหนีบ และเกิดผื่นขึ้นบริเวณขาหนีบ คุณควรไปพบแพทย์ทันทีไม่ควรปล่อยไว้นาน เพื่อจะได้มีการวินิจฉัยว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นมาจากอะไรกันแน่ และจะรักษาอย่างไรจึงจะถูกวิธี ซึ่งก็จะมีวิธีการรักษาเชื้อราที่ขาหนีบเบื้องต้นคือ แพทย์จะจ่ายยาต้านเชื้อราในรูปแบบของครีม หรือขี้ผึ้ง สำหรับทาบริเวณผิวหนังที่เป็น และอาจใช้สบู่ฟอกสำหรับฆ่าเชื้อราร่วมด้วย ในการักษานั้นอาจจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้หากอาการเชื้อราที่ขาหนีบไม่ดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยยาที่แรงขึ้น เช่น รักษาด้วยยาเม็ดสำหรับรับประทาน อาจะเป็น ยาต้านเชื้อราที่ใช้รักษาเชื้อราที่ขาหนีบ เพื่อป้องกันเชื้อราแพร่กระจายไปยังผิวหนังบริเวณอื่น ๆ นั่นเอง อย่างไรก็ตามเมื่อรักษาหายแล้วคุณมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีกได้
จะเห็นได้ว่าเมื่อมีอาการคันขาหนีบ หลาย ๆ คนก็มักที่จะมองข้ามอาการดังกล่าว จนเกิดอาการเรื้อรังและส่งผลต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้านได้ และจะให้ความสำคัญเมื่อเริ่มมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้ทราบอาการ สาเหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว หากใครที่มีอาการดังกล่าวคุณจะต้องไม่มองข้ามอาการเหล่านี้เด็ดขาด และควรรีบรักษาอย่างถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดโรคเรื้อรังอื่น ๆ ตามมาด้วยนั่นเอง
ติดตาม Papa Expert ได้ที่
Website - papaexpert.com
Blockdit - blockdit.com/papaexpert
Facebook - facebook.com/daipa.papa
Instagram - instagram.com/daipa_papa/